ฝี (abscess) คือ เนื้อเยื่อที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย S. aureus ประกอบด้วยหนองและเซลล์ที่ตายแล้วที่เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อ จนก่อให้เกิดลักษณะเป็นก้อนภายในเป็นโพรงตุ่มหนองหรือถุงหนองการอักเสบลึกลงไปจนถึงชั้นdermisและชั้นไขมัน สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกายทั้งอวัยวะภายนอกและอวัยวะภายใน มีขนาดต่างกันตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
อาการของฝีโดยทั่วไป คือ มีตุ่มหนองอักเสบบวม เจ็บปวดและแสบร้อนเมื่อสัมผัสโดน รู้สึกไม่สบายตัว และอาจมีไข้สูงหรือหนาวสั่นร่วมด้วย หากเป็นฝีที่ผิวหนังภายนอกที่มีขนาดเล็กและไม่มีการเจ็บป่วยรุนแรง อาการอาจดีขึ้นและหายได้เอง หรืออาจจะต้องเจาะหรือกรีดระบาย แต่หากเป็นฝีที่อวัยวะภายในจะค่อนข้างเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมโดยการประเมินของแพทย์ผู้รักษา
ฝี แบ่งเป็น 2 ประเภทตามบริเวณที่เกิด ได้แก่
ฝีที่ผิวหนัง เป็นฝีที่ก่อตัวขึ้นบริเวณใต้ผิวหนัง โดยมักเกิดขึ้นบริเวณรากผม ขน หรือต่อมไขมันที่เกิดการติดเชื้อโดยอาจจะพัฒนาจนเกิดฝี เช่น ฝีข้าวสุก ฝีฟักบัว เป็นต้น มีอาการ คือ ฝีเกิดการอักเสบบวมแดง เจ็บปวด รู้สึกแสบร้อน อาจมีหนองซึมออกมาในบางราย
ฝีที่อวัยวะภายใน เป็นฝีที่ก่อตัวขึ้นบริเวณอวัยวะภายในหรือในบริเวณที่ว่างระหว่างอวัยวะภายในร่างกาย อาการแสดงขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิดฝี เช่น มีอาการปวดลึกๆบริเวณนั้นหรือปวดรอบๆบริเวณนั้น มีไข้ไม่ทราบสาเหตุ บ่งชี้ว่าอาจมีอาการติดเชื้อภายในร่างกาย เป็นต้น ซึ่งต้องรีบหาสาเหตุและรักษาเพราะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ซึ่งในบทความนี้จะเจาะเฉพาะฝีที่ผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการอักเสบของรูขุมขนและต่อมไขมันชนิดต่างๆค่ะ
ตุ่มฝีที่เกิดจากการอักเสบของรูขุมขน 1 รู และเนื้อเยื่อโดยรอบ เรียกว่า "Furuncles" หรือ ฝีข้าวสุก แต่ถ้าขึ้นหลายหัวติดๆ กัน เกิดจากการอักเสบของรูขมขนหลายรูพร้อมๆกัน เรียกว่า "Carbuncles" หรือ ฝีฝักบัว ซึ่งพบได้บ่อยในบริเวณที่มีการเสียดสีและมีเหงื่อออกมาก เช่น ใบหน้า คอ ไหล่ แผ่นหลัง รักแร้ ก้น เป็นต้น
สาเหตุการเกิดฝี
ผู้ที่ต่อมไขมันผลิตมากเกินไป
ผู้ที่ไม่รักษาความสะอาดของร่างกาย
ผู้ที่โกน แวกซ์ขน หรือมีบาดแผลตามผิวหนัง
ผู้ป่วยโรคผิวหนังชนิดอื่น ๆ เพราะโรคผิวหนังอย่างสิวหรือผื่นผิวหนังอักเสบอาจทำให้ผิวบอบบางหรือเกราะปกป้องผิวถูกทำลาย จึงทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคไต หรือโรคตับ
ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือบกพร่อง
การรักษา
ใช้น้ำอุ่นประคบ
ให้ยาปฏิชีวนะ Cloxacillin 50 มก./กก./วัน ในผู้ป่วยที่แพ้ยา cloxacillinให้ erythromycin
30-50 มก./กก./วัน หรือ clindamycin 20-45 มก./กก./วัน หากเชื้อมีการดื้อยาหรือไม่ตอบสนองต่อยาปฎิชีวนะต้องเปลี่ยนยาที่มีสเปคตรัมครอบคลุมเชื้อได้มากขึ้น เช่น Augmenting
30-50 มก./กก./วัน
เมื่อฝีมีขนาดใหญ่ขึ้นเกินกว่า 4 ซม. หรือ ไม่ตอบสนองต่อยาปฎิชีวนะ จะต้องผ่าระบายหนองออก ล้างโพรงภายในด้วยน้ำเกลือจนกว่าจะสะอาด และทำแผลด้วยวิธีการ wet dressing with gauze drain คือการใช้ผ้าก๊อซชุบน้ำเกลือบิดหมาดยัดไว้ที่โพรง เพื่อดูดซับและระบายเลือดและหนอง อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง/วัน ร่วมกับการฉีดหรือรับประทานยาปฎิชีวนะ
ทำแผลที่โรงพยาบาล คลินิก หรืออนามัยใกล้บ้านทุกวัน จนแผลตื้นและปิดไปเอง งดสัมผัสน้ำบริเวณแผล
ภาวะแทรกซ้อนจากฝี
มีภาวะแทรกซ้อนบางประการ อาจมีอาการไม่รุนแรงไปจนถึงรุนแรง ดังนี้
แผลเป็น ผู้ป่วยที่เป็นฝีฝักบัวอาจเสี่ยงต่อการเกิดแผล เมื่อโดนเกา หรือฝีแตก
เชื้อดื้อยา เชื้อสแตฟฟิโลคอกคัสออเรียสบางตัวอาจทนต่อยาปฏิชีวนะในกลุ่มเมธิซิลินได้
ทำให้รักษาได้ยากกว่าปกติ โดยแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะชนิดอื่นแทน
เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ เป็นการติดเชื้อที่ใต้ชั้นผิวหนังและเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้ผิวหนังบวมแดง เกิดความเจ็บปวด สัมผัสแล้วรู้สึกร้อน ผู้ป่วยอาจมีไข้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ติดเชื้อในกระแสเลือด การติดเชื้อที่ผิวหนังอาจลุกลามไปบริเวณอื่นของร่างกายและทำให้อวัยวะอื่น ๆ เกิดการอักเสบไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นปอด กระดูก ข้อต่อ หัวใจ ระบบประสาทส่วนกลาง
หรืออาจเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการหนาว สั่น มีไข้สูง อ่อนเพลียอย่างมาก และหัวใจเต้นเร็ว ซึม จนไม่รู้สึกตัว หากไม่รีบรับการรักษาอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
การป้องกันการเกิดฝี
หลีกเลี่ยงการบีบหรือเกาผิวหนังบริเวณที่มีฝีหรือแผล
อาบน้ำเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายเป็นประจำ
ล้างมือให้สะอาด โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังจากใช้ห้องน้ำ
หลีกเลี่ยงการเกาแผลหรือรอยขีดข่วนตามร่างกาย โดยให้ทำความสะอาดแผลและปิดแผลด้วยผ้าพันแผลปลอดเชื้อจนกว่าจะหายเป็นปกติ
หลีกเลี่ยงการใช้เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หรือผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น และควรซักทำความสะอาดสิ่งของดังกล่าวด้วยน้ำร้อนเป็นประจำ
รีบไปพบแพทย์หากพบว่าเป็นโรคผิวหนังหรือมีอาการเจ็บป่วยที่อาจก่อให้เกิดแผลตามร่างกาย
Comments