ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยมักมีอาการ มีไข้สูง ปวดเมื่อย ไอ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งมักพบบ่อยในฤดูฝนและฤดูหนาว หากปล่อยไว้แล้วมีอาการรุนแรงมากขึ้น อาจเสี่ยงติดเชื้อในปอดและทำให้เสียชีวิตได้
อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดธรรมดา และโควิด-19 มีความคล้ายคลึงกัน จึงทำให้วินิจฉัยแยกโรคยาก และมีโอกาสติดเชื้อร่วมกัน หากติดโควิดร่วม จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้นได้
ไข้หวัดใหญ่มีความแตกต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไร
เกิดจากเชื้อไวรัสต่างชนิดกัน และมีความรุนแรงแตกต่างกัน โดยไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ จะเป็น Influenza virus ส่วนไข้หวัดธรรมดานั้นเกิดจากการเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆ เช่น rhinovirus, adenovirus เป็นต้น โดยไข้หวัดใหญ่มักจะมีอาการรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้
ไข้หวัดใหญ่ในคนมีกี่สายพันธุ์
ไข้หวัดใหญ่ในคนมีทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ A, B และ C
ไข้หวัดใหญ่ชนิด A และ B
ไวรัส 2 ชนิดนี้เป็นเชื้อที่แพร่กระจายแบบวงกว้างหรือเรียกว่าการระบาด โดยไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A แบ่งออกเป็นหลายซัปไทด์ ซัปไทด์ที่มีการระบาดเป็นประจำ เช่น H1N1 และ H3N2 ส่วนไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ไม่มีซัปไทด์ จึงทำให้อาการมรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ A
ไข้หวัดใหญ่ชนิด C
ไวรัสชนิด C เป็นเชื้อไวรัสที่ไม่ได้ส่งผลกระทบเท่าไวรัสชนิด A และ B หากมีอาการป่วย ก็สามารถรักษาตามอาการด้วยการกินยา ดื่มน้ำ และพักผ่อนให้เพียงพอ รักษาตัวที่บ้านได้เลย
การแพร่เชื้อของโรคไข้หวัดใหญ่
การแพร่เชื้ออาจเกิดโดยการสัมผัส “ละอองฝอย “ (droplet transmission) ของน้ำมูก
น้ำลายผู้ป่วย จากมือที่สัมผัสกับพื้นผิวที่มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แล้วใช้มือสัมผัสที่จมูกและปาก
ไอ จาม หรือพูด
ระยะฟักตัว
ประมาณ 1-3 วัน หลังได้รับเชื้อ
ระยะติดต่อ
ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ 1 วันก่อนมีอาการ และจะแพร่เชื้อต่อไปอีก 3-5 วันหลังมีอาการในผู้ใหญ่ ส่วนในเด็กอาจแพร่เชื้อได้นานกว่า 7 วัน ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แต่ไม่มีอาการก็สามารถแพร่เชื้อในช่วงเวลานั้นได้เช่นกัน
Comments